“เสธ.หมึก” เตรียมวางแผนเผชิญเหตุ ป้องกันนักกีฬาเกิดอาการฮีตสโตรก ในศึกสองล้อ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์”

สมาคมกีฬาจักรยานฯ เตรียมแผนเผชิญเหตุในศึกสองล้อทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2023” ป้องกันนักกีฬาเกิดอาการ “ฮีตสโตรก” เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนระอุอุณหภูมิสูงกว่า…

สมาคมกีฬาจักรยานฯ เตรียมแผนเผชิญเหตุในศึกสองล้อทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2023” ป้องกันนักกีฬาเกิดอาการ “ฮีตสโตรก” เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนระอุอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ด้าน “เสธ.หมึก” เผยได้ประสานงานกับสาธารณสุขจังหวัดที่เป็นเส้นทางแข่งขันทุกจังหวัดจัดทีมแพทย์-พยาบาล และรถฉุกเฉินเต็มพิกัด ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับทีมแพทย์และพยาบาลของสมาคมกีฬาจักรยานฯ ด้าน “โค้ชตั้ม” ชี้อากาศที่ร้อนจัดจะสร้างปัญหาให้แก่ทุกทีม ขณะที่ “ไทยพีบีเอส” เตรียมขนอุปกรณ์ชุดใหญ่รวมทั้งโดรนบินถ่ายภาพมุมสูงในการถ่ายทอดสดตลอดการแข่งขัน
A01พลเอกเดชา เหมกระศรี
 
 “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ เตรียมจัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2023” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน 2566 ซึ่งมีการลงทะเบียนกับสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ในระดับ 2.1 มีการเก็บคะแนนสะสมไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส โดยประเภททีมชายแข่งขัน 6 สเตจ ระหว่างวันที่ 1-6 เมษายน เส้นทางในจังหวัดกาญจนบุรี, สุพรรณบุรี, อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, สระบุรี, นครราชสีมา, ปราจีนบุรี, สระแก้ว และระยอง ระยะทาง 1,032.90 กิโลเมตร ส่วนทีมหญิง แข่งขันระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน เส้นทางภายในจังหวัดระยอง ระยะทาง 241.20 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งสิ้น 1,274.10 กิโลเมตร
A02
 พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับทีมระดับอาชีพ และทีมชาติต่าง ๆ ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ประเภททีมชายมีทั้งหมด 15 ทีม แบ่งเป็นทีมระดับคอนติเนลตัล จำนวน 9 ทีม ประกอบด้วย ทีมตรังกานูโพลีกอน “แชมป์เก่า” จากมาเลเซีย, ทีมเจซีแอล อูเกียว จากญี่ปุ่น, ทีมอัลมาตี้ แอสตาน่า มอเตอร์ส จากคาซัคสถาน, ทีมเซเว่น อีเลฟเว่น คลิก-แอร์21 จากฟิลิปปินส์, ทีมแอลเอ็กซ์ จากเกาหลีใต้, ทีมเซนต์จอร์จ คอนติเนนตัล จากออสเตรเลีย รวมทั้ง 3 ทีมของไทย คือ ทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล, ทีมรู้ใจ ออนไลน์ อินชัวร์รันซ์, ทีมแกรนด์ ธอร์นตัน และยังมีระดับทีมชาติอีก 6 ทีม นำโดย ทีมชาติไทย, ทีมชาติเกาหลีใต้, ทีมชาติสิงคโปร์, ทีมชาติไต้หวัน, ทีมชาติมาเลเซีย และทีมชาติอินโดนีเซีย
A03
 
 “เสธ.หมึก” กล่าวอีกว่า ส่วนประเภททีมหญิงมีจำนวน 13 ทีม นำโดย ทีมไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีมอาชีพหญิงของไทย ในฐานะ “แชมป์เก่า” พร้อมด้วยทีมชาติไทย, ทีมชาติมาเลเซีย, ทีมชาติอินโดนีเซีย, ทีมชาติสิงคโปร์, ทีมชาติไต้หวัน, ทีมชาติเวียดนาม, ทีมชาติเกาหลีใต้, ทีมชาติฟิลิปปินส์ และทีมระดับสโมสรอีก 4 ทีม ได้แก่ ทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ กับ ทีมคิตเช่น ควีนส์ ของไทย, ทีมเซอร์เวโล-ซิบปี้แพ็ค จากออสเตรเลีย, ทีมซี่ฉวน จากจีน ซึ่งแต่ละทีมทั้งชายและหญิงต่างจัดทัพนักปั่นชุดใหญ่มาชิงชัยเพื่อเก็บคะแนนสะสมคัดเลือกไปโอลิมปิกเกมส์ 2024
A04
 “สำหรับการเตรียมพร้อมในการแข่งขันครั้งนี้ เนื่องจากนักกีฬาจะต้องแข่งขันท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนระอุ ในบางวันอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ จึงได้ประสานงานสาธารณสุขจังหวัดของทุกจังหวัดที่เป็นเส้นทางแข่งขันวางแผนเผชิญเหตุการณ์ที่นักกีฬาเกิดอาการฮีตสโตรกจากอากาศที่ร้อนจัด โดยจัดทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่พยาบาล พร้อมรถพยาบาลฉุกเฉินของโรงพยาบาลในพื้นที่ต่าง ๆ เอาไว้เต็มพิกัด รวมทั้งทีมแพทย์และรถพยาบาลฉุกเฉินของสมาคมกีฬาจักรยานฯ คอยกำกับดูแลนักกีฬาอย่างใกล้ชิด พร้อมนำนักกีฬาส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้อย่างทันท่วงที เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่นักกีฬาทีมต่าง ๆ ที่เดินทางมาจากทุกสารทิศ และเพื่อให้การแข่งขันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย” พลเอกเดชา กล่าว
 
 พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า สหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ได้ส่งผู้ตัดสินชาวต่างชาติที่มีประสบการณ์สูงมาทำหน้าที่ในการแข่งขันครั้งนี้จำนวน 3 คน ประกอบด้วย นายจอห์น แม็กดอนเนล หัวหน้าผู้ตัดสินนานาชาติชาวนิวซีแลนด์, นายเอ็ดเวิร์ด ซุง วู ปาร์ค ผู้ตัดสินนานาชาติชาวเกาหลีใต้, นายซึเนโอริ คิกูชิ ผู้ตัดสินนานาชาติชาวญี่ปุ่น ขณะที่นักปั่นทีมต่างชาติที่เดินทางมาถึงประเทศไทยทีมแรกได้แก่ ทีมแอลเอ็กซ์ จากเกาหลีใต้ ซึ่งเข้าพักที่โรงแรมอาร์เอส จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อมาฝึกซ้อมเส้นทางก่อนที่จะเริ่มการแข่งขันในวันที่ 1 เมษายนนี้ ส่วนบรรยากาศภายในจังหวัดกาญจนบุรีพี่น้องประชาชนก็มีความตื่นตัวกันมาก โดยเฉพาะบรรดาร้านค้า ร้านอาหาร พ่อค้าแม่ค้าต่างเตรียมนำสินค้ามาจำหน่ายในช่วงที่มีการแข่งขัน เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดให้มีความคึกคัก
A05
 นายกสองล้อไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2023” จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 68 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2566 โดยแต่ละจังหวัดที่ขบวนนักกีฬาผ่านและพักค้างแรม ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดจะเป็นผู้นำกล่าวถวายพระพรชัยมงคล นอกจากนั้นยังมีการจัดซุ้มเฉลิมพระเกียรติ เพื่อให้ปวงพสกนิกรชาวไทยร่วมลงนามถวายพระพร เป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระองค์ ก่อนจะมีการปล่อยขบวนนักกีฬาในแต่ละวัน นอกจากนี้ตลอดเส้นทางแข่งขันจะมีพี่น้องประชาชนนำธงชาติไทย และธงพระนามาภิไธยย่อ “สธ.” และพร้อมใจกันสวมเสื้อสีม่วงมาร่วมเฉลิมพระเกียรติและร่วมให้การต้อนรับขบวนนักกีฬา
 
 “ด้านสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ที่จะทำการถ่ายทอดสดการแข่งขันผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ และยูทูบ เผยแพร่ออกไปทั่วโลกก็เตรียมจัดอุปกรณ์ชุดใหญ่ทั้งกล้องถ่ายทอดสดเกือบ 20 ตัว และโดรนบินถ่ายภาพมุมสูงเพื่อให้ชาวไทยและชาวต่างชาติได้เห็นความสวยงามแหล่งท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัด รวมไปถึงวิถีชีวิตของพี่น้องชาวภาคตะวันตก, ภาคกลาง และภาคตะวันออก ซึ่งการแข่งขันเมื่อปี 2022 มียอดวิวจากการชมทางเฟซบุ๊กไลฟ์รวมมากกว่า 3,480,000 วิว และยอดวิวจากการชมทางยูทูบ รวมมากกว่า 350,000 วิว ก็ขอให้พี่น้องชาวไทยช่วยส่งกำลังใจให้นักกีฬาไทยทั้งชายและหญิงสู้ศึกในครั้งนี้ โดยติดตามชมการถ่ายทอดสดระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน ยกเว้นวันที่ 7 เมษายน ที่เป็นวันพัก เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. จนกระทั่งจบการแข่งขันในแต่ละวัน” พลเอกเดชา กล่าวเสริม
 
 ด้าน “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท ในฐานะรองประธานฝ่ายเทคนิคสมาคมกีฬาจักรยานฯ และหัวหน้าผู้ฝึกสอนจักรยานประเภทถนน เปิดเผยว่า นักกีฬาไทยทั้งทีมชาชีพและทีมชาติไทยชาย-หญิง ได้มาฝึกซ้อมเส้นทางแข่งขันจริงเรียบร้อยแล้ว นับว่าเป็นเส้นทางแข่งขันที่ยากมากโดยเฉพาะประเภททีมชายแต่ละสเตจมีระยะทางไกลมาก เช่น สเตจที่ 4 จากจังหวัดนครราชสีมาไปยังจังหวัดสระแก้วมีระยะทางถึง 203.20 กิโลเมตร แต่ที่น่าหนักใจมากกว่าคือเรื่องสภาพอากาศที่ร้อนจัดถือเป็นปัญหาใหญ่ของนักปั่นทุก ๆ ชาติ ไม่เพียงเฉพาะทีมไทย ดังนั้นจะต้องวางแผนเตรียมทีมให้ดี ขณะเดียวกันการแข่งขันครั้งนี้เปรียบเหมือนเป็นปรีซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา เนื่องจากมีนักปั่นในอาเซียนร่วมชิงชัยถึง 6 ชาติ ได้แก่ ไทย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์ และเวียดนาม ทำให้เรารู้ศักยภาพของคู่แข่ง และรู้จุดบกพร่องของนักกีฬาไทยด้วย
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2023” ประเภททีมชาย ระหว่างวันที่ 1-6 เมษายน ระยะทาง 1,032.90 กิโลเมตร มีดังนี้ สเตจที่ 1 วันที่ 1 เมษายน เส้นทางภายในจังหวัดกาญจนบุรี เริ่มต้นจากหน้าศาลหลักเมืองกาญจนบุรี และเข้าเส้นชัยที่หน้าโรงกระดาษไทยกาญจนบุรี ระยะทางรวม 119.40 กิโลเมตร / สเตจที่ 2 วันที่ 2 เมษายน เส้นทางเริ่มจากหน้าศาลหลักเมืองกาญจนบุรี ผ่านจังหวัดสุพรรณบุรี ผ่านจังหวัดอ่างทอง เข้าเส้นชัยที่อุทยานประวัติศาสตร์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระยะทาง 179 กิโลเมตร
สเตจที่ 3 วันที่ 3 เมษายน เส้นทางเริ่มจากหน้าศาลกลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (หลังเก่า) ผ่านจังหวัดลพบุรี-ผ่านจังหวัดสระบุรี-เข้าเส้นชัยที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ระยะทาง 195 กิโลเมตร / สเตจที่ 4 วันที่ 4 เมษายน เส้นทางเริ่มจากหน้าร้าน Prime19 อำเภอปากช่อง ผ่านจังหวัดปราจีนบุรี ไปเข้าเส้นชัยบริเวณหน้าเทศบาลเมืองอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ระยะทาง 203.20 กิโลเมตร / สเตจที่ 5 วันที่ 5 เมษายน เส้นทางเริ่มจากหน้าเทศบาลเมืองอรัญประเทศ ไป เข้าเส้นชัยที่หน้าศาลหลักเมืองจันทบุรี ระยะทาง 169 กิโลเมตร / สเตจที่ 6 วันที่ 6 เมษายน  เส้นทางเริ่มจากหน้าศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จังหวัดจันทบุรี เข้าเส้นชัยที่หน้าสนามกีฬากลางจังหวัดระยอง ระยะทาง 167.30 กิโลเมตร
ส่วนการแข่งขันจักรยานทางไกลสตรีนานาชาติ “วีเมนส์ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2023” ประเภททีมหญิง แข่งขันระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน เส้นทางในจังหวัดระยอง ระยะทางรวม 241.20 กิโลเมตร สเตจที่ 1 วันที่ 8 เมษายน ริ่มต้นจากสนามกีฬากลางจังหวัดระยอง แล้วกลับมาเข้าเส้นชัยที่เดิม ระยะทาง 70 กิโลเมตร / สเตจที่ 2 วันที่ 9 เมษายน เส้นทางภายในจังหวัดระยอง เริ่มต้นจากสนามกีฬากลางจังหวัดระยอง แล้วกลับมาเข้าเส้นชัยที่เดิม ระยะทาง 82.20 กิโลเมตร / สเตจที่ 3 วันที่ 10 เมษายน เส้นทางเริ่มจากหน้าสนามกีฬากลางจังหวัดระยอง ไปเข้าเส้นชัยที่หน้าหอเฉลิมพระเกียรติ อ่างเก็บน้ำดอกกราย ระยะทาง 89 กิโลเมตร.